แบตเตอรี่ เป็นแหล่งพลังงานสำหรับรถยนต์ที่ช่วยสตาร์ทเครื่องยนต์ และเป็นแหล่งเก็บสำรองพลังงานไฟฟ้า โดยปกติแล้ว อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ อยู่ที่ 1 ปีครึ่งถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งาน มาดูกันว่า 5 พฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็นมีอะไรบ้าง
1.การจอดรถยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานานๆ โดยไม่ถูกสตาร์ทหรือนำมาใช้ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด เพราะขณะที่รถถูกจอดทิ้งไว้แบตเตอรี่ยังคงจ่ายไฟไปเลี้ยงระบบต่างๆ ในรถยนต์ ทำให้กำลังไฟในแบตเตอรี่อ่อนลงเรื่อยๆ
2.การดัดแปลงไดชาร์จ ทำให้สัดส่วนของกระแสไฟในการชาร์ตแบตเตอรี่ เกิดอาการ Over Charge และแบตเตอรี่จะเกิดการชาร์ตถี่และบ่อยเกินไป ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วขึ้น
3.ลืมปิดไฟหน้าและไฟในห้องโดยสารหลังจากดับเครื่องยนต์บ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่คายประจุไฟฟ้าต่อเนื่อง ส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลาอันควร
4.ใช้เครื่องเสียง หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในรถยนต์ขณะดับเครื่องยนต์ เพราะแหล่งพลังงานที่จะถูกนำมาใช้นั้น จะมาจากแบตเตอรี่รถของเราโดยตรง ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่กินพลังงานของแบตเตอรี่ทั้งนั้น ยิ่งมีการเสียบใช้อย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน หรือบ่อยครั้ง อาจะมีความเสี่ยงที่เครื่องยนต์จะดับ หรือส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วได้
5.ขาดการดูแลรักษาแบตเตอรี่ แบตเตอรี่รถยนต์นั้นควรได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ควรหมั่นคอยสังเกตขั้วแบตเตอรี่ว่ามีสนิมหรือขี้เกลือหรือไม่ หรือการถอดแบตเตอรี่ออกเมื่อไม่ได้มีการใช้งานจะช่วยลดการคายประจุไฟฟ้า ของแบตเตอรี่ สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น ควรเติมน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำต่ำกว่าขีดที่โรงงานกำหนด ซึ่งจะช่วยแบตเตอรี่ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 พฤติกรรมเสี่ยงที่อาจทำให้แบตเตอรี่รถของคุณเสื่อมโดยไม่รู้ตัว และอาจต้องเสียเงินเพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่รถเร็วขึ้น หรือที่แย่ไปกว่านั้นรถของคุณอาจจะสตาร์ทไม่ติดเมื่อถึงเวลาเร่งรีบ ดังนั้นหมั่นตรวจเช็คระบบไฟในรถด้วยการนำรถมาเช้าศูนย์บริการที่ โตโยต้านครพิงค์ เชียงใหม่ ได้เลยค่ะ